

ประเภทของฟิล์ม WPF
- PET WPF – ฟิล์มโพลีเอสเตอร์แบบแข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ให้ความใสสูง ไม่ลดทัศนวิสัย
- TPU WPF – ฟิล์ม TPU ที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า ทนทานต่อแรงกระแทกและสามารถซ่อมแซมรอยขีดข่วนเล็กๆ ได้เอง (Self-Healing)
การเลือกใช้ WPF ควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานและสภาพถนนที่ขับขี่เป็นประจำ เช่น หากเดินทางบนถนนที่มีเศษหินเยอะ TPU WPF จะช่วยลดโอกาสการแตกร้าวของกระจกได้ดีขึ้น
คุณสมบัติเด่นของฟิล์ม WPF
- ป้องกันกระจกจากเศษหินและแรงกระแทก ลดโอกาสเกิดรอยร้าวและรอยขีดข่วนจากวัตถุที่กระเด็นใส่
- ช่วยลดแสงสะท้อนและ UV ป้องกันรังสี UV และช่วยลดความร้อนในห้องโดยสาร
- Hydrophobic Coating เคลือบกันน้ำและลดการเกาะตัวของฝุ่นละออง ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้นแม้ในวันที่ฝนตก
- ทัศนวิสัยคมชัด ไม่ลดคุณภาพการมองเห็น ฟิล์มมีความใสสูง ไม่ทำให้ภาพบิดเบือน
- ยืดอายุการใช้งานของกระจกหน้า ลดความเสี่ยงที่ต้องเปลี่ยนกระจกบ่อยๆ
- ทนต่อสารเคมีและรอยขีดข่วน ป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำฝนที่มีกรดและฝุ่นละอองจากถนน
ทำไมต้องติดตั้งฟิล์ม WPF
- เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ลดความเสี่ยงของกระจกแตกจากเศษหินและแรงกระแทก
- ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนกระจกใหม่ ป้องกันกระจกเดิมจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- ช่วยให้กระจกใสและสะอาดอยู่เสมอ ฟิล์มเคลือบกันน้ำช่วยให้ฝุ่นและคราบน้ำไม่เกาะติดง่าย
- ช่วยลดแสงสะท้อนจากไฟหน้ารถคันอื่น เพิ่มความสบายตาในเวลากลางคืน
- ติดตั้งง่าย และสามารถเปลี่ยนใหม่ได้โดยไม่ทำลายกระจกเดิม
เปรียบเทียบ WPF กับการติดฟิล์มกระจกทั่วไป
คุณสมบัติ | WPF (Windshield Protection Film) | ฟิล์มติดกระจกทั่วไป |
การป้องกันแรงกระแทก | สูง | ต่ำ |
Self-Healing | มี (TPU WPF) | ไม่มี |
Hydrophobic Coating | มี | ไม่มี |
ทัศนวิสัย | ใส คมชัด | อาจมีสีเข้มลดแสง |
การป้องกันรังสี UV | สูง | ปานกลาง |
ความทนทาน | 5-10 ปี | 3-5 ปี |
ติดตั้งฟิล์ม WPF ที่ไหนดี
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกศูนย์ติดตั้งที่มีมาตรฐาน และใช้ฟิล์มจากแบรนด์ชั้นนำ ที่มีคุณภาพและรับประกันการใช้งาน